ประวัติทีมชาติ
สำหรับผลงานในทีมชาติ เนย์มาร์ ติดทีมบราซิลชุดอายุไม่เกิน 17 ปี ในศึกชิงแชมป์โลกยู-17 เมื่อปี 2009 ซึ่งเขาก็โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ จนถึงขั้นที่เปเล่ และ โรมาริโอ อดีตสองตำนานแข้งแซมบ้า ออกมาแนะให้ ดุงก้า กุนซือทีมบราซิลชุดใหญ่ หนีบเนย์มาร์ ไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบสุดท้าย แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากสื่อและแฟนบอล แต่สุดท้าย ดุงก้า ก็เลือกที่จะไม่ใส่ชื่อกองหน้าซานโต๊สไปลุยศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศแอฟริกาใต้ เนื่องจากมองว่ายังขาดประสบการณ์ในเกมระดับชาติ
ทว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2010 มาโน เมเนเซส โค้ชคนใหม่ของทีมเซเลเซา ก็ให้โอกาส เนย์มาร์ ได้ติดทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในเกมอุ่นเครื่องกับสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ปีเดียวกัน โดยเขาได้ลงสนามเป็นตัวจริงและสามารถทำประตูได้ทันทีในนาทีที่ 28 ก่อนจะช่วยให้บราซิลคว้าชัยไป 2-0 หลังจากนั้น เนย์มาร์ ก็เหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมที่พบกับ สกอตแลนด์ ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
จากนั้น เนย์มาร์ ได้สร้างชื่อในศึกโอลิมปิก ที่สหราชอาณาจักรเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2012 ซึ่งแฟนบอลจากแดนกาแฟต่างคาดหวังกับทีมชุดนี้เป็นอย่างสูงว่าจะสามารถก้าวไปคว้าเหรียญทองให้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังจากจวนเจียนอยู่หลายสมัย
ทว่า "แซมบา" ก็ยังคงไปไม่ถึงดวงดาวอีกครั้ง ด้วยการพ่ายต่อคู่รักคู่แค้นอย่างเม็กซิโก 1-2 ในรอบชิงชนะเลิศ พร้อมกับได้เพียงเหรียญเงินเท่านั้น ถึงแม้เนย์มาร์ จะโชว์เพลงแข้งได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการทำไป 4 ลูกตลอดทัวร์นาเมนต์ก็ตาม อย่างไรก็ตาม กองหน้าดาวรุ่งยังคงพัฒนาการเล่นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนมาระเบิดฟอร์มสุดยอดอีกครั้งในศึกคอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ 2013 ที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพ โดยทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว เนย์มาร์ ยังได้สวมเสื้อหมายเลข 10 ซึ่งเป็นเลขในตำนานของ "ไข่มุกดำ" เปเล่ และเจ้าตัวก็สามารถพาทีมเถลิงแชมป์เอาฤกษ์เอาชัยก่อนมหกรรมฟุตบอลโลกในกลางปีหน้า ด้วยการไล่ถล่มสเปน 3-0 ในนัดชิงชนะเลิศ อีกทั้งเนย์มาร์ ยังได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำศึกคอนเฟดฯ อีกต่างหาก